ข้อคิดดีๆจาก CEO เบอร์ 1 ของเมืองไทย

ข้อคิดดีๆจาก CEO เบอร์ 1 ของเมืองไทย

โพสต์โดย admin » ศุกร์ 25 ธันวาคม 2015, 09:25

ข้อคิดดีๆจาก CEO เบอร์ 1 ของเมืองไทย
คุณบุญคลี ปลั่งศิริ. 6 มีนาคม 2558

มองต่างมุมกับหลายสถาบันการศึกษาในปัจจุบันที่พยายามผลักดัน อยากให้"เจ้าของธุรกิจ"ขึ้นมาเป็น"ผู้บริหารกิจการ" ว่า "เป็นไปไม่ได้"
.
"องค์กรที่มีเจ้าของอย่างเดียวเติบโตไปได้เพียงจุดหนึ่งเท่านั้น ขณะที่องค์กรที่มีแต่มืออาชีพอย่างเดียวไม่มีเจ้าของก็เติบโตได้ช้า แต่คน 2 พันธุ์นี้ต้องอยู่ด้วยกัน"
.
"ถ้าผมเป็นมืออาชีพ ผมทำงานกับเจ้าของ ผมมีปัญหา ผมจะเก็บไว้เป็นความลับ ผมไม่กล้าไปแชร์กับคนอื่น ขณะที่เจ้าของกิจการอาจจะแชร์กัน แต่มืออาชีพไม่แชร์"
.
การทำงานกับธุรกิจที่มีเจ้าของมีอะไรนอกระบบอยู่เรื่อย เด็กรุ่นใหม่ อาจไม่ชอบไม่มีระบบ ไม่มีขั้นตอน ความไม่มีระบบ ทำให้ค่าตอบแทนไม่มีระบบด้วย มันมีอะไรตื่นเต้นที่ผมชอบสิ่งเหล่านี้
.
---------------------------------
1.ถ้าคุณเก่ง คุณจะรวยขึ้น ยุ่งน้อยลง มีเวลามากขึ้น มีความสุขมากขึ้น และสบายมากขึ้น นั่นหมายถึงคุณต้องใช้คนเป็น
.
2.ถ้าคุณเป็นเจ้าของ จงยืนอยู่ในฐานะเจ้าของใจดี. ให้ผู้บริหารมืออาชีพไปชน
.
3.เมื่อมนุษย์สมองซีกขวาถูกสอน ซีกซ้ายคุณจะได้มนุษย์ทองคำ. ความคิดแบบนอกกรอบถ้านำมาจัดระบบจะได้ปรากฏการมหัศจรรย์
.
4.ถ้าลงโทษคนไม่ดีไม่ได้ ก็ให้รางวัลกับคนดีมากๆ รางวัลของคนดีคือการสร้างสิ่งที่เหนือความคาดหมาย คือเช็คเซ็นต์สดๆต่อหน้ามันเร้าใจและสร้างแรงบันดาลใจ
.
5.อินเซนทีฟจะนำพาให้องค์กรเติบโต ดังนั้น เจ้าของต้องรู้จักให้และแบ่งปัน อย่างกไว้คนเดียว พันธกิจผูกไว้กับอินเซนทีฟ ทำให้ลูกน้องได้อินเซนทีฟเยอะๆ ทำให้เค้าชนะเยอะๆ และเราจะชนะยิ่งเยอะ
.
6.การให้ปรับปรุงตัว อย่างสุภาพ คือ การส่งของที่เค้าขาดไปให้. เจ้าของต้องใส่ใจแม้เรื่องแต่งตัว เจ้าของต้องเติมเต็มแม้เรื่องเล็กน้อย
.
7.ตอนรับราชการ หากคุณวางแผนเก่ง แม้เป็นผู้น้อย ก็สามารถขับเคลื่อนภาระกิจให้เป็นดั่งที่เราต้องการได้ ถ้าคุณวางแผนธุรกิจเก่ง คุณก็ขับเคลื่อนองค์กร พันธกิจขององค์กรได้เช่นกัน
.
8.อย่าหยุดอ่าน อย่าหยุดคุยกับผู้รู้ อย่าหยุดคิดอย่าหยุดเรียนรู้. คนไม่ได้แก่ที่แก่ แต่แก่ที่หยุด. โดยเฉพาะช่วงขาลงของชีวิต ถ้าคุณไม่อัพเดท คุณค่าในชีวิตจะลดลง
.
9.อะไรก็ตามที่เราสะสมมา นำมาแบ่งปันกับโลกใบนี้และผู้คนที่อยู่ข้างหลัง โดยการเขียนหนังสือ เพื่อสร้างคุณค่าให้ตัวเรา สร้างคุณค่าให้ประเทศ. สร้างคุณค่าให้ผู้คน. อย่าขี้เหนียวความรู้
.
10.ไม่ว่ามุมมองของ CEO ที่สำเร็จจะแตกต่างจากเจ้าของที่สำเร็จอย่างสุดขั้ว ทั้งสองสิ่งล้วนถูกต้องในแบบที่มันเป็น เราในฐานะผู้ฟังเลือกหยิบมาใช้ให้เหมาะกับธุรกิจของเราเท่านี้เอง
.
11.วิธีคิดอย่างเป็นระบบวิธีทำที่เป็นระบบ จะสร้างการเติบโตที่ก้าวกระโดดให้กับองค์กร
.
12.ทั้งลูกจ้างมืออาชีพและผู้สืบทอดกิจการ gen 2,3 สิ่งที่คุณต้องทำเหมือนกัน คือ การสร้างความไว้วางใจทั้งต่อรุ่นพ่อและต่อลูกน้อง. ไม่โกงและทุ่มเท
.
13.อย่าสอนลูกเอง ความคาดหวังในตัวเค้าจะทำให้เราหัวเสีย ความหัวเสียจะสร้างการจดจำที่ไม่งดงามในจิตใจลูก
.
14.แค่คิดต่างก็เติบโต ทุกธุรกิจมีวงจรและโมเดลของมัน ถ้าเราเบรคทรูวงจรได้ โมเดลเปลี่ยน เช่นการเพิ่มการขายแบบ prepaid ทำให้รายได้เติบโต 30%
สิ่งนี้เรียกว่าทำงานละเอียดให้ละเอียดมาก ถ้าคิดมากเท่านี้ไม่พอ ต้องคิดมากกว่านี้อีกในมุมที่แตกต่างออกไป แค่คิดธุรกิจก็เปลี่ยน
.
15.เถ้าแก่หรือเจ้าของมีหลายแบบ บริษัทเป็นแบบใดก็เป็นไปตามเจ้าของที่เป็นแบบนั้น คือ ชอบประชุมครบอุ่นใจ, ล้วงลูก, เป็นแคชเชียรเก็บเงินตีเช็ค, พูดย้ำๆซ้ำๆ. อย่าเป็นทั้งสี่แบบมันน่ารำคาญมาก
.
16.งานหลักที่เจ้าของต้องทำ คือ หาคนเก่งมาทำงานในบริษัท เรื่องอื่นเป็นเรื่องรอง
.
17.คนไทยเก่งในเรื่อง ทำร้านเล็กๆ บริษัทเล็กๆ
คือ เป็นเจ้าของประเภทเถ้าแก่เก่ง แต่ทำบริษัทขนาด 5,000 คนไม่ได้ เพราะไม่ใช่เจ้าของประเภทนักธุรกิจที่มีระบบและมีมุมมองแบบมืออาชีพ
.
18.ไม่ว่าคุณจะเป็น CEO หรือเจ้าของ ผู้ก่อตั้ง สิ่งนี้เรียกว่าผู้นำ ผู้นำที่นำคนได้ยอดเยี่ยมคือผู้นำที่ Inspire เพื่อ challenge ผู้ตามได้ เช่น มหาตมะคานธี. Inspire คนอินเดียอย่างท้าทายเพื่อนำอินเดียออกจากการปกครองของอังกฤษ
.
19.ผู้บริหารที่มีความเป็นผู้นำสูงไม่พอ ต้อง EQ สูงด้วย
ผู้บริหารเก่ง + EQสูง = ผู้บริหารที่น่ารัก
เราต้องการคนเก่งที่น่ารัก
.
20.การฟังที่สำคัญที่สุด คือ การฟังแบบเอาใจเราเข้าไปนั่งในใจเค้า. เราจึงสามารถได้ฟังเสียงความคิดของเค้า
.
21.เมื่อไหร่ก็ตามที่คุณฟังน้อยลง ส่วนกลับของความเผด็จการจะเพิ่มมากขึ้น
.
22.อะไรที่เป็นงานประจำให้ลูกน้องทำ เจ้าของและCEOต้องคิดและทำสิ่งใหม่เสมอ
.
23.ถ้าเราทำโลจิสติกได้เหมือนดิจิตัล เร็วเหมือนกับคนเคลื่อนเร็ว เศรฐษกิจเปลี่ยน คนนำความเปลี่ยนแปลงทางเศรษฐกิจเมื่อคนเคลื่อนตัว

ข้อความบางส่วนจากเพจ "Marketing Gun"

Credit : ได้รับมาทางไลน์ (25/11/2015)
admin
Administrator
 
โพสต์: 89
ลงทะเบียนเมื่อ: อังคาร 01 มกราคม 2013, 22:36

ย้อนกลับไปยัง เรื่องเล่า เฮฮา ขำขัน

ผู้ใช้งานขณะนี้

กำลังดูบอร์ดนี้: ไม่มีสมาชิก และ บุคคลทั่วไป 2 ท่าน

cron